Agriculture Brand สำคัญอย่างไร ?
เคยได้ยินเพลงนี้จากโบราณว่าไว้ไหมครับ
"ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แผ่นดินของเรานี่แสนอุดมสมบูรณ์" ไหมครับ
เพลงนี้มีบ่งชี้ถึงพื้นเพของประเทศไทยของเราที่มีรากฐานมาจากการเกษตร ซึ่งโดยมากเรามีอาชีพเกษตรกรเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ทำให้อาหารการกินของเรานั้นไม่ขาดแคลนเพราะธรรมชาติสร้างสรรค์มาให้ประเทศเรามีความหลากหลายทางธรรมชาติ
แต่สิ่งที่เรามีของเดิมที่ดีก็ทำให้เราประมาทได้ในยุคปัจจุบันที่เป็นโลกแห่งการค้าเสรีนั้น หลายประเทศจึงพัฒนาสินค้าเกษตรด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้มีผลผลิตที่มากขึ้นหรือมีความพิเศษที่แตกต่างออกไปในด้านต่างๆ
สินค้าเกษตรของประเทศเราจึงประสบปัญหาของเกษตกรที่ยิ่งปลูกยิ่งจน และ ประสบปัญหากับราคาที่ตกต่ำ เพราะเราขาดมุมมองเรื่องการสร้างแบรนด์, การตลาด และ นวัตกรรม
เราเริ่มเสียแชมป์ด้านต่างๆ มากขึ้นในเวทีโลก
ทั้งข้าวที่เราเคยภูมิใจ แม้กระทั่งทุเรียนก็ตาม
ปัญหาโดยสรุปของเราคือ "ทำเยอะ เหนื่อยเยอะ แต่ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจน้อย"
ดังนั้น ในยุคนี้หากเราต้องการเป็นประเทศมหาอำนาจด้านสินค้าเกษตร เราต้องเน้นการสร้างแบรนด์, การตลาดและนวัตกรรมเป็นแกนหลักสำคัญ ซึ่งจะส่งผลให้เราสามารถพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจ ของประเทศเราให้สามารถแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น
Agriculture Brand คืออะไร ?
คือการสร้างแบรนด์สินค้าเกษตร หมายถึง พืชผลทางการเกษตรทั้งผัก ผลไม้ และ เนื้อสัตว์ทุกประเภท โดยแบรนด์ประเภทนี้ถือเป็นต้นน้ำของอาหารทุกๆ ประเภท ซึ่งสินค้าเกษตรมี Value Chain ที่ยาวและมีความเฉพาะในแต่ละกระบวนการรายละเอียด โดยการสร้างแบรนด์ให้สินค้าเกษตรมีความแตกต่างนั้นต้องดึงจุดเด่นมากจาก Value Chain ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อสะท้อนความจริงใจ ตรงไปตรงมากต่อลูกค้า โดยสามารถสร้างจุดเด่นได้จาก
✅ 1. การคัดเลือกสายพันธุ์ที่ปลูก หรือ เลี้ยง
- คุณลักษณะพิเศษ
- ความสามารถในการปรับตัวทนต่อโรค
- การพัฒนาสายพันธุ์ตามที่ต้องการของตลาด
✅ 2. วิธีการปลูก หรือ วิธีการเลี้ยง
- แหล่งที่ปลูก หรือเลี้ยง
- ฤดูกาล และ การเก็บเกี่ยว
- อาหาร และ การป้องกันโรค
- การบำรุงรักษา
📍 ลองดูตัวอย่างที่ดีของการเลี้ยงหมูดำ ที่คาโงชิมา ในประเทศญี่ปุ่น เป็นการสร้างแบรนด์ให้มีชื่อเสียง
✅ 3. การเก็บเกี่ยว หรือ การแปลงสภาพก่อนจำหน่าย
- วิธีการรักษาความสด
✅ 4. การขนส่ง
- การ Package
- การรักษาความสด สะอาด ปลอดภ้ย
✅ 5. การเข้าตลาด go to market
- การแปรรูป
- การกำหนดวิธีการขาย
- การสร้างสินค้าเรือธง
- ช่องทางจัดจำหน่ายแบบ B2B
- ช่องทางจัดจำหน่ายแบบ B2C
✅ 6. การสื่อสารแบรนด์
- Key Objective
- Key Visual
- Key Message
- Key Tools of Communication
การสร้าง Brand Superfans สินค้าเกษตรให้เกิดลูกค้าบอกต่อนั้นต้องทำอย่างไร ?
ก่อนจะหาวิธีการว่าสร้างอย่างไรนั้นเราต้องยอมรับสัจจะธรรมข้อหนึ่งก่อนว่าไม่มีแบรนด์สินค้าไหนที่จะสามารถบอกว่าลูกค้าเราคือทุกคนบนโลกจริงไหมครับ ?
ดังนั้นการกำหนดลักษณะกลุ่มเป้าหมายให้มีความชัดเจนนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญก่อนที่จะลงมือปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์เสียด้วยซ้ำครับ
การสร้าง Brand superfans นั้นเป็นการสร้างกลไกให้ลูกค้ากระจายชื่อเสียงแบรนด์เรา บอกต่อแบรนด์เราด้วยตัวเขาเหล่านั้นเอง
ถ้าเป็นแบรนด์สินค้าเกษตร จะเป็นการสร้างกลไกที่ทำให้ลูกค้าอยากได้แบรนด์นั้นๆ หรือเรียกว่าเป็นการตลาดเชิง Pull มากกว่า Push
ดังนั้นหากท่านไหนที่ต้องการสร้าง Brand Superfans ของสินค้าเกษตรลองทำตามขั้นตอน ดังนี้
🎯 1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบ Target persona ให้ชัดเจน ขนาดตลาดใหญ่พอ เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อที่ดี
🎯 2..กำหนดคุณค่าพิเศษจาก Value Chain โดยเลือกเน้นจุดใด จุดหนึ่ง ที่ท่านคิดว่าท่านทำได้ดีและสามารถนำมาสร้างนวัตกรรมให้แตกต่างได้ ตามตัวอย่าง "ข้าวบ่มหิมะ" ที่ขายได้มากกว่าข้าวปกติ 5 เท่า
🎯 3. นำคุณค่าในข้อสองมานำเสนอหรือสื่อสารแบรนด์ให้น่าสนใจ , ดึงดูด, จริงใจและเข้าใจง่าย
🎯 4. การตั้งชื่อแบรนด์สินค้าเกษตร หลักคิดของการตั้งชื่อแบรนด์คือ เน้นการสร้างประสบการณ์ที่สะท้อนความรู้สึกถึงความเป็นต้นตำรับ เป็นแหล่งปลูกจริงๆ ทำให้แบรนด์นั้นๆ สร้างความรู้สึกว่า เป็นสินค้าที่มาจากแหล่งปลูกจริงๆ สด สะอาด และ ไว้วางใจได้ เช่น ไร่กำนันจุล, จิมทอมสันฟาร์ม, ดอยคำ เป็นต้น
🎯 5. การเข้าตลาดที่แตกต่างทำให้รู้สึกถึงประสบการณ์ที่พิเศษ ทำให้รู้สึกอยากได้มากกว่าพยายามจะยัดเยียดการขาย หรือ ลดแลกแจกแถม กลยุทธ์ที่มักนิยมใช้กันคือ
กลยุทธ์แรก คือ การสร้างตลาดการประมูลสินค้าเกษตร เพื่อสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ของสินค้าเกษตรเอง เราจะเห็นได้เยอะมากในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถขายสินค้าเกษตรได้ราคาที่ดี เช่น การเปิดตลาดประมูลเมล่อนยูบาริของญี่ปุ่นในตลาดซัปโปโร เป็นต้น
กลยุทธ์ที่สอง คือ การเปิดจองล่วงหน้าตั้งแต่การปลูก ทำใหสร้างคุณค่าที่ได้รู้สึกว่าเป็นคนพิเศษจริงๆ ที่จะได้ลิ้มลองสัมผัสสินค้านั้นก่อนใคร บางครั้งเราจะเห็นว่ามีการจองแปลงที่นาในการจ้างปลูกข้าวเลยด้วยซ้ำ โดยผู้ซื้อสามารถดูการปลูกและการเติบโตข้าวของตนเองผ่านกล้องวงจรปิดได้เลย
ทั้งหมดนี้เป็นการสร้างแบรนด์สินค้าเกษตรที่ผมคิดว่าถึงเวลาของประเทศไทยหรือยังครับ ที่จะทำให้สินค้าเกษตรเรามีแบรนด์โด่งดังไปทั่วโลก ไม่ใช่ต้องรอการประกันราคาจากภาครัฐ รัฐบาลเองก็ควรสนับสนุนอย่างถูกทางด้วยครับ
< บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของทางบริษัท บารามีซี่ จำกัด ห้ามดัดแปลง ทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร >
#การสร้างแบรนด์สินค้าเกษตร
#การสร้างAgricultureBrand
#การสร้างBrandSuperfansสินค้าเกษตรให้เกิดลูกค้าบอกต่อนั้นต้องทำอย่างไร