สวัสดีผู้ที่ติดตาม และสนใจการพัฒนาแบรนด์ทุกท่าน วันนี้ผมจะมาสรุปเนื้อหาการประกาศผลการวิจัยและมอบรางวัลจากงาน BIBF : Bangkok International Festival 2024 งานเทศกาลนวัตกรรมและความรู้การสร้างแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดประจำปี
วันนี้จะเอาตัวเลขผลการวิจัยการประกาศรางวัลสำหรับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมูลค่าสูงสุด 10 อันดับแรกมาให้ชมกันครับ
🏆 รางวัลในหมวดที่ 1
Top 10 The Most Brand Future Valuation 2024 for Property Sector
แบรนด์ที่ได้รับรางวัลแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่
อันดับ 1 AP มูลค่า 11,276.17 MB
อันดับ 2 SC Asset มูลค่า 10,060.47 MB
อันดับ 3 Sansiri มูลค่า 8,716.52 MB
อันดับ 4 Land & House มูลค่า 8,503.99 MB
อันดับ 5 Supalai มูลค่า 8,019.38 MB
อันดับ 6 Pruksa มูลค่า 5,622.82 MB
อันดับ 7 Q House มูลค่า 3,490.92 MB
อันดับ 8 LPN มูลค่า 2,481.00 MB
อันดับ 9 Property Pefect มูลค่า 1,562.53 MB
อันดับ 10 Ananda มูลค่า 512.85 MB
❤️ รางวัลในหมวดที่ 2
Thailand Brand Superfans 2024 for Property Sector
แบรนด์ที่มีคะแนนอัตราควมเป็นสาวกแบรนด์ 5 อันดับแรก ได้แก่
อันดับ 1 Land and House คะแนน SPI 35.55%
อันดับ 2 AP คะแนน SPI 35.44%
อันดับ 3 SC Asset คะแนน SPI 32.54%
อันดับ 4 Ananda คะแนน SPI 32.16%
อันดับ 5 Supalai คะแนน SPI 30.85%
ข้อมูลนี้เป็นการวิจัยจากทางบารามีซี่ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเครื่องมือโมเดลการประเมินมูลค่าแบรนด์ที่เรียกว่า BFV™ Model (Brand Future Valuation Model) รางวัลที่มอบเป็นรางวัลสำหรับคนทำงานด้านแบรนด์ที่ต้องการให้เป็นกำลังใจ และเดินหน้าในการสร้างแบรนด์ให้เติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป
บทวิเคราะห์จากในมุมมองผมและทีมงานที่ได้เห็นข้อมูลการวิจัยที่ออกมา พบประเด็นสำคัญอยู่ 4 ประเด็น
ประเด็นที่ 1 : GDP Impact
ผลกระทบจาก GDP ของประเทศที่ตกต่ำ มูลค่าแบรนด์มีการลดลงทั้งตลาดซึ่งมีผลต่ออัตราการเติบโตของประเทศ เพราะในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีอัตราการเติบโต สอดคล้องกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ประเด็นที่ 2 : Brand Segmentation Strategy ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง การไม่ปรับดอกเบี้ยเพราะต้องการคุมวินัยทางการเงินของประเทศที่มากเกินไป ทำให้ไม่มีปัจจัยบวกส่งผลให้กำลังซื้อในตลาดกลาง และล่างนั้นมีอัตราการซื้อที่ลดลง แม้จะมีความต้องการก็ตามแต่ สำหรับแบรนด์ที่มีสินค้าในตลาดบนส่งผลกระทบน้อยกว่า ซึ่งมีผลทำให้ มูลค่าแบรนด์ ของแบรนด์ที่โฟกัสบ้านเดี่ยวในตลาดบน และกลุ่มเป้าหมายเป็นพนักงานที่มีฐานเงินเดือนที่สูงยังสามารถเติบโตไปได้อยู่ และมีการเติบโตแบบสวนกระแส ตัวอย่างเช่นแบรนด์ AP, SC Asset ที่เติบโตได้ดีในปีนี้
กลยุทธ์ด้าน Segmentation จะมีความสำคัญมากขึ้นที่แบรนด์สามารถตอบสนองความต้องการที่เฉพาะมากยิ่งขึ้นของแต่ละกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เพราะจะทำให้อัตราความเป็นสาวกแบรนด์ปรับตัวสูงมากยิ่งขึ้น
ประเด็นที่ 3 : Focus Key Brand Touchpoint การสร้างแบรนด์ที่โฟกัสกับพื้นฐานของสินค้าที่มีการออกแบบที่ดี และสร้างคุณภาพที่ดี ยังคงมีความสำคัญอยู่มาก ถือเป็น Key Touchpoint ที่สำคัญ แม้วิธีการสร้างแบรนด์และการตลาดอาจไม่หวือหวาตามกระแส แต่ก็ยังครอบครองความเป็นสาวกแบรนด์ที่แข็งแรง ตัวอย่าง เช่น Land & Houses ที่ในปีนี้มีคะแนนด้านอัตราความเป็นสาวกแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ส่งผลต่อมูลค่าแบรนด์ และความแข็งแรงของแบรนด์ที่ยังคงมีความแข็งแรงที่ยอดเยี่ยม
ประเด็นที่ 4 : Brand Consistency การบริหารแบรนด์ที่มีความต่อเนื่องและการควบคุมแบรนด์ได้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องนั้นมีผลต่อมูลค่าแบรนด์และความแข็งแกร่งของแบรนด์อย่างมาก การบริหารแบรนด์ที่มีความต่อเนื่อง ซึ่งจากงานวิจัยที่ออกมานั้นการบริหารแบรนด์ต้องมีการควบคุมให้สม่ำเสมอต่อเนื่อง อาทิ
✅ ความคงที่ตอกย้ำคุณภาพของโครงการอย่างต่อเนื่อง
✅ การออกแบบโครงการที่สามารถสร้างความประทับใจจากการออกแบบตัวบ้าน และการออกแบบส่วนกลางยังคงมีความสำคัญมาก
✅ การควบคุมแบรนด์ผ่านการออกแบบ Corporate Brand Identity ที่พิถีพิถัน ทั้งการออกแบบโลโก้, การควบคุมสีหลักของแบรนด์บนสื่อต่างๆ, การใช้ฟอนต์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะส่งผลต่อการจดจำ ความผูกพันแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
จากบทวิเคราะห์นี้สามารถนำไปเป็นข้อพิจารณาในทิศทางกลยุทธ์ปีนี้และปีต่อไป เพื่อสร้างแบรนด์ของท่านในอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างแข็งแรงต่อไปในอนาคต
แบรนด์ไหนสนใจ Report อย่างละเอียด ที่จะช่วยไขข้อสงสัยที่มาของตัวเลขการวิจัยสำหรับปี 2024 และให้แบรนด์ของท่านไปวางแผนกลยุทธ์ในปีหน้าได้อย่างแม่นยำ
ติดต่อได้ที่ คุณเอม 088-2236546 หรือ LineOA @Baramizi