top of page

♟ Brand Transformation เริ่มต้นอย่างไร ?

สวัสดีครับ สำหรับตอนนี้ผมอยากชวนตั้งคำถามที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของท่านครับว่า


1. ถึงเวลาที่แบรนด์ของเราต้องทรานส์ฟอร์มแล้วหรือยัง ?

2. ทำไมต้องทรานส์ฟอร์มแบรนด์ ?

3. ทรานส์ฟอร์มแบรนด์แล้วได้อะไร ?


การเฉลยคำตอบขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ และความเข้าใจของระบบเศรษฐกิจของทุกๆ ท่าน ตอนนี้โลกเราเปลี่ยนจาก Industry Economy ไปสู่ Value Economy มาสักระยะแล้วครับ ซึ่งการวิ่งตามเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยที่เราไม่เข้าใจว่าระบบเศรษฐกิจเชิงคุณค่าคืออะไร ? เราจะไม่สามารถนำเทคโนโลยีต่างๆ มาพัฒนาแบรนด์ตนเองได้อย่างถูกจุด และเราก็จะเป็นได้แค่คนที่ทำตามกระแสโดยขาดความเป็นตัวของเราเอง


🎯 ยุคนี้สิ่งที่ขาดแคลนคือ พื้นที่ในใจลูกค้า ด้วยยุคสมัยที่สื่อเปิดกว้างและถาโถมมาจำนวนมากในแต่ละวัน เราไม่ได้ขาดเทคโนโลยี ไม่ได้ขาดดาต้า แต่การที่ธุรกิจท่านจะประสบความสำเร็จ แบรนด์ต่างๆ จึงจำเป็นต้องแย่งพื้นที่ในใจลูกค้าซึ่งขาดแคลนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วอะไรล่ะคือหัวใจสำคัญของการครอบครองจิตใจลูกค้า นั่นคือลูกค้าจะแบ่งพื้นที่ให้แบรนด์ที่ทรงคุณค่าสามารถเกาะกุมหัวใจเขาเหล่านั้นได้เท่านั้น !!


ดังนั้นยุคนี้จึงควรทบทวน วิสัยทัศน์ สินค้า บริการ และแผนธุรกิจ เสียใหม่ ซึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยให้การเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัยกลายไปเป็นโอกาสนั้น ถึงเวลาที่ท่านต้องทำคือ Brand Transformation Strategy โดยการทรานส์ฟอร์มให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และมีความชัดเจนในทิศทางการบริหาร จะเริ่มต้นด้วยกระบวนการวิจัย ซึ่งในประสบการณ์ของทาง Baramizi ทำมาแล้วได้กลยุทธ์ทรานส์ฟอร์มที่ดี คือ การวิจัยด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า 4 Universe Program Analysis เรามาทำความรู้จักเครื่องมือตัวนี้กัน


กระดุมเม็ดแรกของการทรานส์ฟอร์มแบรนด์ให้สำเร็จด้วยโมเดล 4 Universe Program Analysis


วิธีการทรานส์ฟอร์มแบรนด์ หรือ การสร้างสรรค์แบรนด์ที่มีประสิทธิภาพนั้น เราได้สรุปเป็นทฤษฎีที่เรียบง่าย เข้าใจจากกฎของธรรมชาติ เราเรียกว่า ทฤษฎีต้นไม้ ซึ่งเปรียบเทียบการสร้างแบรนด์เหมือนการปลูกต้นไม้ที่มีกระบวนการตั้งแต่

ราก คือ กระบวนการวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล

ลำต้น คือ กระบวนการพัฒนาแนวความคิดด้านกลยุทธ์

กิ่งก้านใบ คือ กระบวนการที่ให้ดอกผลกับเจ้าของแบรนด์


การวิเคราะห์เพื่อค้นหากลยุทธ์แบรนด์ที่ดี และมีประสิทธิภาพ เราต้องสามารถวิเคราะห์จากข้อมูลที่มาจากองค์ประกอบทั้ง 4 ด้าน ดังนี้

1. Corporate Brand Audit & Analysis (Corporate Vision) ในการวิเคราะห์มุมมองแรก 

ซึ่งสำคัญมากกว่าการมองแค่จุดแข็งแต่ต้องมองถึงคุณค่าที่องค์กรนั้นๆ ที่มีอยู่และต้องต่อยอดการทรานส์ฟอร์มแบรนด์จากคุณค่าหลักนี้ การมองถึงคุณค่าของตัวเราเองนั้น เราต้องวิเคราะห์ จุดแข็ง, จุดเด่น,  ความสามารถหลักของเรา และดูไปถึงสิ่งที่เราหลงใหล (Passion)


ย้ำนะครับ เราต้องดูทั้งหมด ไม่ใช่แค่จุดแข็งอย่างเดียวแต่ต้องมองให้ครบตามหัวข้อข้างต้น แล้วสกัดออกมาเป็นคุณค่าของเราเองที่เราทำได้ดีกว่าคู่แข่งในตลาด


2. Mege Trend Analysis การวิเคราะห์ในปัจจัยถัดมา คือ การวิเคราะห์ด้านเมกะเทรนด์ โดยเฉพาะธุรกิจหรือแบรนด์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ จำเป็นต้องทรานส์ฟอร์มเพื่อหา Product New S Curve ใหม่ เพื่อสร้างรายได้ใหม่ในอนาคต เราจึงต้องค้นหาว่าโอกาสของเราอยู่ตรงไหน ซึ่งการวิเคราะห์ในปัจจัยนี้เราจะมองไปยังอนาคตที่ไกลมากยิ่งขึ้น โดยเราต้องดูว่าแบรนด์เราสามารถขยายไปยังอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลกอะไรได้อีกบ้าง ซึ่งกลยุทธ์ที่เรากำหนดสิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปนั้นจะต้องมีส่วนผสมมาจากเมกะเทรนด์เหล่านี้ด้วย 


3. Consumer Research การวิเคราะห์ในปัจจัยนี้ซึ่งเป็นปัจจัยด้านผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนยุค Gen ใหม่ๆ มีกำลังซื้อมากขึ้น เราต้องวิเคราะห์ดูว่าลูกค้าของเรามีโอกาสจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นกลุ่ม Gen ไหน และกลุ่มนั้นเขามีความต้องการอะไร มีอะไรที่เป็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ซึ่งในปัจจัยข้อนี้ทำให้เราสามารถนำไปสกัดการวางแผนการออกแบบและพัฒนาประสบการณ์แบรนด์ให้สอดคล้องกับกำลังซื้อที่มากจาก Gen ใหม่ๆ ที่จะตามมา ในอนาคต ทั้งนี้การเข้าใจความต้องการของคน Gen ใหม่ๆนั้นทำให้แบรนด์เราปรับตัวให้ดูเข้ายุคเข้าสมัยได้ตลอดเวลา 


4. Competitors Analysis การวิเคราะห์คู่แข่งที่ต้องคำนึงมีมากกว่าแค่คู่แข่งทางตรง คู่แข่งทางอ้อมก็ต้องเฝ้าระวังและองค์กรต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง การวิเคราะห์คู่แข่งนั้นเป็นปัจจัยที่เราต้องพิจารณาให้ชัดว่าแบรนด์เรามีโอกาสที่จะชนกับใครในตลาดและคู่แข่งนั้นจะมาแย่งแชร์ทางการตลาดเราไปได้  ใครจะคิดล่ะครับว่าคู่แข่งของโซนี่ จะกลายเป็นบริษัทอย่าง Apple ซึ่งนั่นก็คือสงครามของแบรนด์ iPod ที่ทีมงาน Apple ได้วิเคราะห์เจ้าเครื่องฟังเพลงอย่างโซนี่วอร์คแมนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง โดยมองตลาดไปที่คนฟังเพลงเหมือนกันทั้งๆ ที่ช่วงแรกทุกคนต่างมองว่า Apple คือ บริษัทคอมพิวเตอร์

A pedestrian passes a wall covered with Apple iPod advertisements July 14, 2005 in San Francisco, California.Justin Sullivan/GI


นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สร้างความเสียหายแบบยับเยินให้กับโซนี่ที่มองไม่ออกว่าใครกันแน่คือคู่แข่งตัวจริงของเขา ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผมให้เทคนิคไว้ว่าอย่ามองแค่แบรนด์ระดับสินค้า ต้องวิเคราะห์ไปถึงแบรนด์ระดับองค์กรด้วยจึงจะทำให้การวิเคราะห์เรานำไปสู่การออกแบบกลยุทธ์การทรานส์ฟอร์มได้อย่างรัดกุมมากที่สุดต่อไป


ติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาด้านการพัฒนาแบรนด์ให้มีมูลค่าและทำให้ธุรกิจเติบโต ได้ที่

โทร. 063-3642492 (คุณโบว์)

อีเมล์ kanyarath.r@baramizi.co.th


 #Brandtransformation #กลยุทธ์การทรานส์ฟอร์มแบรนด์  #BrandAnalysisModel  #4universeProgram

ดู 22 ครั้ง

ความคิดเห็น


bottom of page