วันนี้ธุรกิจในประเทศควรวางแผนสู่การเป็นโกลบอลแบรนด์เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต เพราะหลังจากนี้เราจะมองแค่ตลาดในประเทศไม่ได้อีกต่อไป เพราะบริบททางเศรษฐกิจเราเปลี่ยนไป ขีดความสามารถทางการแข่งขันเราสู้เพื่อนบ้านไม่ได้ สิ่งที่เราต้องทำต่อไปไม่ใช่แค่เป็นธุรกิจรับจ้างผลิตหรือแค่ผลิตขายของแข่งกันในประเทศ
📊 ในบทความตอนนี้จะพาท่านไปรู้จักกลยุทธ์ที่จะนำไปท่านไปสู่ Global Brand ที่เรียกว่า Brand Licensing เรามารู้จักกันก่อนว่ากลยุทธ์นี้ให้ประโยชน์อย่างไรในการทำให้ธุรกิจของท่านเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก
🎯 ทำไมต้องทรานส์ฟอร์มสู่ Global Brand ?
จากประสบการณ์ทำงานที่ช่วยผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจทรานส์ฟอร์มแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จมาแล้วมากกว่ายี่สิบปี ส่วนมากการขับเคลื่อนขีดความสามารถทางการแข่งขันทางธุรกิจของประเทศเรานั้นยังมีความหลากหลายของ Business Model ที่น้อยมาก ส่วนมากมองการผลิตสินค้าหรือบริการออกมาเพื่อสร้างรายได้ แบรนด์จึงเป็นกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนให้สินค้าหรือบริการนั้นแย่งพื้นที่ในใจลูกค้าให้ได้
ปัญหาที่เราจะพบคล้ายๆ กันคือ การสเกลธุรกิจให้เติบโตไปในตลาดโลก หรือ การสร้าง Global Brand ก็น้อยมากๆ (อย่าลืมนะครับตลาดขนาด 70 ล้านคน กับ 7,000 ล้านคน นั้นมูลค่าทางเศรษฐกิจต่างกันอย่างมาก) กลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญที่เรียกว่า การสร้างแบรนด์ เรายังมองในมิติที่แคบมากและยังไม่เห็นอานุภาพจริงๆ ของมันว่าถ้าสร้างติดตลาดโลกได้แล้วมันจะขยายผลได้กว้างขวางแค่ไหน ?
🍟 ลองคิดดูครับแบรนด์อย่าง แมคโดนัล สามารถสร้างยอดขายบางสาขาได้หลักพันล้านบาทต่อปี มากกว่าธุรกิจหลายๆ ธุรกิจจำนวนมาก การมี Global Brand ในประเทศนั้นๆ สามารถสร้างรายได้และการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ประเทศนั้นๆ เป็นอย่างมาก ในทางตรงข้ามประเทศที่ไม่มีหรือมี Global Brand น้อยมากจะส่งผลต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่า
ประเทศเรามีแบรนด์ร้านเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านอย่าง Index และ SB แต่เราไม่มีโกลบอลแบรนด์อย่าง IKEA ที่ขยายไปได้ทั่วโลกและมีรายได้ต่อปีมากกว่า 1 ล้านล้านบาท มูลค่าแบรนด์มากกว่า 8 แสนล้านบาท
การกำหนดเป้าหมายตั้งแต่วันแรกในการดำเนินธุรกิจที่จะมุ่งสู่โกลบอลแบรนด์นั้นทำให้กระดุมหลายเม็ดจะติดถูกตั้งแต่วันแรกไม่ต้องมาตามแก้ภายหลัง ตั้งแต่ชื่อแบรนด์, การออกแบบโลโก้หรืออัตลักษณ์แบรนด์ การคำนึงถึงการคุ้มครองลิขสิทธิ์แบรนด์ เป็นต้น
การขยายธุรกิจสู่โกลบอลแบรนด์ด้วยกลยุทธ์การให้สิทธิ์ใช้แบรนด์ (Brand licensing)
กลยุทธ์ Brand Licensing เป็นวิธีการสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถขยายตัวจากตลาดท้องถิ่นไปสู่ตลาดโลกได้ โดยอาศัยความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพในพื้นที่เป้าหมาย รวมถึงการสร้างโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคใหม่ๆ ด้วยสินค้าหรือบริการที่สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละภูมิภาค สำหรับการเติบโตและขยายธุรกิจ กลยุทธ์ Brand Licensing มีประโยชน์อย่างไร ?
1.ช่วยให้การขยายธุรกิจสามารถเพิ่มการเข้าถึงตลาดโลกได้รวดเร็ว (Scalable)
การให้สิทธิ์ใช้แบรนด์ (Brand Licensing) กับผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายในตลาดเป้าหมาย ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้รวดเร็วและกว้างขวางขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนทรัพยากรในการผลิตหรือจัดจำหน่ายเองทั้งหมด เช่น แบรนด์ Hello Kitty, Mickey Mouse, Manchester-United สโมสรฟุตบอลชั้นนำของโลก ร่วมมือกับบริษัทหลากหลายประเทศในการพัฒนาสินค้าต่างๆ ตั้งแต่เสื้อผ้าจนถึงของใช้ในบ้านเพื่อให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
2. บริหารเพื่อลดความเสี่ยงในการเข้าสู่ตลาดใหม่ (Risk Management)
แบรนด์ที่เลือกใช้พันธมิตรท้องถิ่นในตลาดต่างประเทศผ่านการให้ลิขสิทธิ์แบรนด์ (Brand Licensing ) สามารถลดความเสี่ยงจากการลงทุนมหาศาลโดยไม่ต้องตั้งโรงงานหรือขยายบุคลากรในท้องถิ่นด้วยตนเอง เพราะใช้เวลาและเงินทุนจำนวนมากกว่า ที่สำคัญบริบทท้องถิ่น (Local Context) นั้นมีปัจจัยทั้งด้านกฎหมาย, ทักษะแรงงาน, วัฒนธรรมของวิถีชีวิตในแต่ละท้องถิ่น สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นความเสี่ยงที่ใช้งบประมาณจำนวนมากในการเข้าตลาดทั้งสิ้น ดังนั้นการดำเนินขยายธุรกิจด้วย Brand Licensing และสามารถหาพันธมิตรหลักได้นั้นสามารถลดความเสี่ยงทางธุรกิจไปได้มาก
3. สร้างผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคในท้องถิ่นได้รวดเร็ว (Local Link)
ด้วยกลยุทธ์การให้ใช้ลิขสิทธิ์แบรนด์ (Brand Licensing) การอนุญาตให้พันธมิตรหลักสามารถพัฒนาสินค้าที่เหมาะสมกับผู้บริโภคท้องถิ่นนั้นทำให้แบรนด์เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตผู้คนในท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็ว อาทิ KFC มีรสลาบเผ็ด หรือ วิงส์แซ่บในประเทศไทยเพราะพฤติกรรมคนไทยชอบทานอาหารรสจัด หรือ สตาร์บักส์ในประเทศจีน มีรสชาติชาเขียวที่พิเศษและหลากหลายกว่าในประเทศอื่น เพราะเป็นรสชาติที่คนจีนชื่นชอบ
4. เพิ่มมูลค่าแบรนด์ได้เพิ่มมากขึ้น (Increase Brand Value)
การใช้กลยุทธ์การให้ใช้ลิขสิทธิ์แบรนด์ (Brand Licensing) นี้ช่วยเพิ่มการรับรู้และความน่าเชื่อถือในระดับสากล ซึ่งส่งผลต่อการขยายมูลค่าของแบรนด์โดยเฉพาะเมื่อผลิตภัณฑ์ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรหลัก (Key Partner) ที่มีความน่าเชื่อถือในความร่วมมือขยายแบรนด์สู่ตลาดท้องถิ่นนั้นๆ การบริหารแบรนด์ให้แข็งแกร่งในท้องถิ่นมีความสำคัญมากที่ต้องควบคุมและบริหารจัดการแบรนด์ ( Brand Management ) ให้ดี เพื่อให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้อย่างยั่งยืน
5. การสร้างความยั่งยืนของรายได้ (Sustainability of Revenue)
รายได้ที่เกิดจากการเก็บค่าลิขสิทธิ์ (Licensing) เป็นรายได้ประจำที่สามารถเพิ่มขึ้นเมื่อแบรนด์มีการขยายพันธมิตรในหลายพื้นที่ ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ Disney ซึ่งใช้กลยุทธ์การให้ลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ต่างๆ ในหลากหลายประเภทสินค้า ตั้งแต่ของเล่น เสื้อผ้า ไปจนถึงธีมพาร์ค ทำให้ Disney เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในตลาดโลกอย่างยั่งยืน หรือร้านค้าปลีก เซเว่น อีเลฟเว่น ที่ให้สิทธิ์การใช้แบรนด์กับพันธมิตรหลักอย่าง CP ALL ของเครือเจริญโภคภัณฑ์นั้น ทำให้เซเว่น อีเลฟเว่น มีรายได้ที่ต่อเนื่องจากการขยายสาขาซึ่งสร้างรายได้ค่าลิขสิทธ์ให้เซเว่น อีเลฟเว่น ปีละไม่ต่ำกว่าสามพันล้านบาท
จากประโยชน์ที่ได้กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าการขยายธุรกิจไปในตลาดโลกนั้นเราต้องคิดถึงทั้งการขยายตลาดและควบคุมความเสี่ยง ซึ่งการทรานส์ฟอร์มแบรนด์เราใปสู่การเป็นโกลบอลแบรนด์ด้วยกลยุทธ์ Brand Licensing นั้นจึงมีประโยชน์และเป็นแนวทางที่ทั่วโลกมักใช้นั่นเองครับ
สามารถดาวน์โหลดไฟล์งานวิจัยการประเมินมูลค่าแบรนด์ ประจำปี 2024 ที่แจกภายในงาน BIBF 2024 ได้ฟรี ! ได้ที่ลิงก์
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : 088-2236546 (เอม) Sutthinee.b@baramizi.co.th
#ทำไมจึงต้องมีการประเมินมูลค่าแบรนด์ #การประเมินมูลค่าแบรนด์มีประโยชน์อย่างไร #WhyBrandFutureValuation #BrandFutureValuation