top of page
รูปภาพนักเขียนBaramizi

ตีแผ่ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขาย Brand Product บ้านราคา 5 ล้านขึ้นไป 🏘

(จากเล่มรายงานการประเมินมูลค่าแบรนด์บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประจำปี 2023)


🔎 สำหรับงานวิจัยการประเมินมูลค่าแบรนด์บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประจำปี 2023

(Brand Future Valuation Report for Property Sector) ตัวเลขของมูลค่าแบรนด์ในตลาดเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่บอกถึงผลลัพธ์ที่สำคัญ แต่ในเล่มรายงานฉบับนี้ความตั้งใจของทีมวิจัย ต้องการนำเครื่องมือที่ชื่อว่า BFV™ Model นั้นมาเพื่อพัฒนาแบรนด์และธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เป็นตัวชี้วัดที่ทำให้เราสามารถเข้าใจสถานะปัจจุบันของแบรนด์และธุรกิจเราทั้งจากปัจจัยภายใน Internal Branding และ ปัจจัยภายนอก External Branding


📍สิ่งสำคัญที่รายงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ได้ครอบครองและได้นำไปใช้ คือ โอกาสการเพิ่มยอดขายใน Product Brand ของกลุ่มสินค้าในแต่ละ Segment สำหรับในตอนนี้ผมได้นำบางส่วนของรายงานมาเล่าให้ฟัง หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์นะครับ


🏘 ในกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับราคาสูงกว่า 5 ล้านบาทพบว่า...

ปัจจัยการตัดสินใจซื้อนั้นเกิดจากการนำดาต้าของการตรวจวัดสุขภาพด้าน Brand Superfans มาเป็นการวิเคราะห์เพื่อดูว่าคุณค่า และ การออกแบบประสบการณ์ส่วนไหนของลูกค้ามีผลต่อการตัดสินใจมากที่สุด ซึ่งผมได้วิเคราะห์จาก ปัจจัยที่สัมพันธ์กับ Net Promoter Score (NPS) อัตราการบอกต่อ และ ปัจจัยที่สัมพันธ์กับ Brand Supporter Index (BSI) อัตราการอยากสนับสนุนแบรนด์นั้นๆ



5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขาย Brand Product บ้านราคา 5 ล้านขึ้นไป เป็นอย่างไรไปดูกันเลยครับ

  1. Relaxed & Safe คือ คุณค่าที่สำคัญสำหรับผู้ที่เลือกซื้อบ้านในระดับราคาที่สูงกว่า 5 MB คือความรู้สึกที่ รู้สึกว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่สร้างประสบการณ์ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย, รู้สึกถึงประสบการณ์แห่งการพักผ่อน การเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสุขภาวะของผู้อยู่อาศัย (กาย, ใจ, สภาพแวดล้อม) และที่สำคัญมากที่อาจจะทำให้ถูกตัดทิ้งไปได้เลยถ้าโครงการนั้นๆ ไม่มีความรู้สึกปลอดภัย เพราะคนในกลุ่มนี้มักจะตัดสินใจจากการคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของคนในครอบครัว

  2. Social Impact คือ คุณค่าการเป็นแบรนด์ที่มีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสังคมรอบข้าง สำหรับคุณค่าในข้อนี้แบรนด์ไหนสร้างบุญไว้ก็จะได้มาเก็บเกี่ยวก็คราวนี้ครับ เพราะผู้บริโภคสัมผัสและสามารถรับรู้จากข่าวสารได้ว่าแบรนด์ไหนใส่ใจสังคม และ สิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง  สำหรับในข้อนี้นั้นสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ของโลกที่ว่า ผู้บริโภคยุคใหม่จะยินดีสนับสนุนและตัดสินใจเลือกแบรนด์ที่เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสังคมและโลกใบนี้

  3. Image & Acceptance คือ คุณค่าการมีภาพลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับ ซึ่งคนในกลุ่มนี้ซื้อบ้านมากกว่าฟังก์ชัน หรือประโยชน์ใช้สอย แต่เพียงอย่างเดียวครับ เขาต้องการแบรนด์ที่ยกระดับสถานะทางสังคมของเขา ( ลูกค้า ) ขึ้นไปอีก แบรนด์จึงกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ติดตัวเขาเหล่านั้นไปด้วย ซึ่งถ้าเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ที่โดดเด่น ทำให้คนรอบข้างรู้สึกยอมรับ แบรนด์โครงการนั้นๆ ก็เพิ่มโอกาสการสร้างยอดขายไปในตัว

  4. Style & Design Experience คือ การออกแบบประสบการณ์ของตัวแบรนด์โครงการ ที่มีสไตล์เรื่องเล่าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ซึ่งเกิดจากธีมและคอนเซปต์ ของโครงการ เรียกว่าจะแพ้ชนะกันก็ขึ้นกับฝีมือในการออกแบบที่แตกต่างมีสุนทรีย์ที่มากกว่ากันนั่นเอง

  5. Pre service คือ การออกแบบประสบการณ์ผ่านการออกแบบการบริการก่อนและระหว่างซื้อ มีการบริการที่น่าประทับใจตั้งแต่การให้ข้อมูลก่อนลูกค้าเข้ามาเลือกชมที่เซลล์แกลอรี่ จนถึงการเข้ามาพบกับพนักงานขาย, การต้อนรับตลอดจนการพาชมบ้านตัวอย่างและคอยดูแลแนะนำตลอดการเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ ซึ่งการออกแบบประสบการณ์ลูกค้าอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เส้นทางการให้บริการ (Service Journey) เป็นระบบช่วยให้เพิ่มน้ำหนักการตัดสินใจซื้อได้อย่างมากครับ แต่ในขณะเดียวกันถ้าทำไม่ดีก็ถูกตัดทิ้งได้เลยเช่นกันครับ



#รายงานการประเมินมูลค่าแบรนด์บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประจำปี2023

#ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขาย Brand Product บ้านราคา 5 ล้านขึ้นไป








ดู 45 ครั้ง
bottom of page