เราคงได้เห็นข่าวจากหลายๆ แหล่งว่าตอนนี้ประเทศไทยวิกฤติรอบด้านจริงๆ โดยเฉพาะการส่งออก เราส่งออกแต่สินค้าที่โลกลืมและสินค้าที่เคยเป็นผู้นำการส่งออกไม่ว่าจะเป็นข้าว, ยางพารา, ทุเรียน หรือชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ ก็ล้วนแต่ถอยหลังลงเรื่อยๆ หรือเรียกได้ว่าตลอดสิบปีที่ผ่านมา เราทำแต่สิ่งเดิมๆ นโยบายรัฐก็มุ่งเน้นแต่การส่งเสริมการลงทุนที่ให้ประเทศตัวเองเป็นแค่เพียงผู้ผลิต ส่วนสินค้าเกษตรก็วนเวียนกับการประกันราคาสินค้าเกษตรตลอดมา 🌾
ปัญหาเหล่านี้สะท้อนว่าแบรนด์ ประเทศไทย ต้องถึงเวลาการวางกลยุทธ์การทรานส์ฟอร์มแบรนด์ประเทศไทยให้สอดคล้องกับยุคสมัยได้แล้วครับ
📍เศรษฐกิจไทยสร้างรายได้แต่เพียงเครื่องจักรเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น
- อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
- อุตสาหกรรมการเกษตร
- การส่งออก
- การดึงการลงทุนโดยให้ไทยเป็นฐานการผลิต
โดยมากเป็นอุตสาหกรรมดั้งเดิม ที่มีอัตราการเติบโตที่ต่ำมาก เราขาดแผนการดึงการลงทุนอุตสาหกรรมอนาคตเข้ามาในประเทศ อาทิ ชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ, ไมโครชิป, แบตเตอรี่รถยนต์ EV, ชิ้นส่วนรถยนต์ EV ⚡
อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าที่เป็นสินค้าที่เราเป็นผู้รับจ้างผลิต (OEM) ก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจเราจะกลับมาเติบโตได้เกิน 5%
นโยบายที่ประเทศไทยควรเร่งสปีด คือการใช้กลยุทธ์การทรานส์ฟอร์มแบรนด์มาดำเนินการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ
กลยุทธ์การทรานส์ฟอร์มแบรนด์..
มีที่มาจากเศรษฐกิจยุคสมัยที่โลกเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนยีดิจิตอลที่เข้ามา Disrupt โลกธุรกิจมากมายทำให้ธุรกิจบางประเภทอยู่ไม่ได้ เช่น ธุรกิจฟิล์มของแบรนด์โกดัก, ธุรกิจสื่อดั้งเดิม แม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือแบบปุ่มกดจากแบรนด์โนเกีย, รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปของแบรนด์ญี่ปุ่นหลายๆ แบรนด์ก็ยังถูกโลกลืม
กลยุทธ์การทรานส์ฟอร์มแบรนด์ หัวใจสำคัญคือการทำให้ แบรนด์นั้นๆ สามารถปรับโมเดลทางธุรกิจ, พัฒนาสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ของโลก
ประเทศไทยเช่นกันครับ แบรนด์ของเรากำลังตกยุคและกำลังถูกโลกลืม อีกทั้งเพื่อนบ้านของเราทั้งเวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซียเขาพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ และกำลังใกล้แซงเราไปในแทบทุกด้าน (สิงคโปร์ไปไกลกว่าเรามากทั้งๆ ที่มาทีหลังและทรัพยากรน้อยกว่าเรามาก) สิ่งที่รัฐบาลควรตระหนักและวางแผนในเชิงมหภาคในระดับการทรานส์ฟอร์มแบรนด์อย่างจริงจัง การแก้ปัญหาแค่เพียงเฉพาะหน้าจะทำให้ประเทศเราไม่ไปไหนมาไหน จริงๆ ครับ
🎯 แล้วประเทศเราควรทรานส์ฟอร์มอะไรด่วนบ้าง ?
1. เราต้องทรานส์ฟอร์มจากการผลิตสินค้าดั้งเดิมทรานส์ฟอร์มไปสู่ประเทศไทยที่ผลิตสินค้าที่มีนวัตกรรม ในระบบเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ของโลก อาทิ
อุตสาหกรรม ยานยนต์ EV
อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด
อุตสาหกรรมด้านกรีน และ Climate Tech
อุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม
อุตสาหกรรมอาหารแปรรูปเพื่อสุขภาพและอาหารปลอดภัย
2. เราต้องทรานส์ฟอร์มจากการส่งออกแค่สินค้า สู่การทำให้คนทั้งโลกมาใช้แบรนด์จากประเทศไทย
เปลี่ยนจากส่งออกข้าวแต่เป็นแบรนด์ข้าวที่สร้างให้ติดตลาดโลก
เปลี่ยนจากการส่งออกแค่สินค้าเกษตร ทรานส์ฟอร์มสู่สินค้าเกษตรที่มีแบรนด์ที่แข็งแรงทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกติดแบรนด์สินค้าไทย
3. เราต้องทรานส์ฟอร์มจากการมี Positioning ที่เป็นผู้ผลิตไปเป็นประเทศที่มี Positioning เน้นการ Research & Development (R&D)
จากที่ผมได้สัมผัสกับนักวิจัยเก่งๆ ในประเทศเรามีจำนวนมาก และมีความสามารถจริงๆ ครับ แต่เราต้องผลักดันทั้งเชิงงบประมาณและด้านนโยบายที่เน้นการเชื่อมต่อผลงานของนักวิจัยกับภาคธุรกิจให้สามารถต่อยอดและทำให้เกิดเศรษฐกิจแห่งอนาคตในประเทศให้ได้
อาทิ เราผลักดันการสร้างนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าไม่พอ ประเทศเราควรมีแบรนด์รถไฟฟ้าในประเทศให้ได้ และเมื่อเราสามารถจำหน่ายในประเทศได้ ก็สามารถขยายตลาดไปทั่วโลกได้อีกมากมาย
จาก 3 แกนหลักในการทรานส์ฟอร์มแบรนด์ประเทศนั้นจะส่งผลให้ลูกค้าที่ยอมจ่ายเงินให้กับประเทศไทยมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้เม็ดเงินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเข้ามาในประเทศมาขึ้นและทำให้ประเทศไทยไม่ไปเจอสงครามราคาต้องลดแลกแจกแถมจึงขายของได้
📍 ย้ำนะครับการทรานส์ฟอร์มแบรนด์ประเทศไทยไม่ใช่แค่การทำภาพลักษณ์ ไปออกแบบโลโก้หรือฟอนต์หรือทำแต่โฆษณาสวยๆ แต่ต้องปรับที่แกนหลักตามที่กล่าวไป 3 ข้อครับ (การทรานส์ฟอร์ม 3 ข้อนี้ ทำน้อยแต่จะเห็นผลมากมายครับ)
ทั้งนี้การทรานส์ฟอร์มเพื่อสร้างรายได้จากภายนอกนั้นไม่เพียงพอ ในด้านแบรนด์ต้องมีการ ทรานส์ฟอร์มจากภายในด้วยหรือเรียกว่า Internal Branding เราต้องสร้าง Mind Set ให้คนในประเทศที่กล้าคิด กล้าฝัน มี Can Do Attitude ข่าวต่างๆ ก็ลดข่าวผัวเมียตีกัน ข่าวดราม่า,ฆ่ากัน ลงไปบ้าง ควรจะต้องผลักดันสำนักข่าวดีดี ที่นำเสนอข่าวที่เป็นประโยชน์สร้างสรรค์ให้มากขึ้น เชิดชูนวัตกรที่คิดอะไรใหม่ๆออกมาจึงจะเปลี่ยนแปลงได้จริงครับ
------------------------------------------------------------------
ติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาด้านการพัฒนาแบรนด์ให้มีมูลค่าและทำให้ธุรกิจเติบโต ได้ที่
โทร. 063-3642492 (คุณโบว์)
อีเมล์ kanyarath.r@baramizi.co.th
#ทรานส์ฟอร์มแบรนด์ประเทศไทย