เหตุผลที่ธุรกิจไทยควรขยายสู่ตลาดโลกด้วยกลยุทธ์ Global Brand
- Baramizi
- 6 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
🌍 ช่วงนี้จะสังเกตเห็นว่าทั้ง GDP ของประเทศไทยและมูลค่าของธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์บ้านเรานั้น ร่วงหล่นจนน่าใจหายและยังไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นได้เมื่อไร ดังนั้นสิ่งที่ธุรกิจในบ้านเราต้องเตรียมความพร้อมไว้นั้นคือการขยายตลาดออกไปในตลาดโลก ซึ่งการขยายตลาดนั้นไม่ควรมองแค่การส่งออกสินค้าครับ แต่ควรมองถึงการส่งออกแบรนด์ ! หมายความว่าการขยายธุรกิจไปในตลาดโลกนั้น ความได้เปรียบด้านการเป็นผู้ผลิตของเรานั้นถือว่าต่ำมาก การแข่งขันด้านราคาเราไม่สามารถสู้ประเทศจีน เวียดนาม อินเดียได้อีกต่อไป
ดังนั้นการขยายตลาดสู่ตลาดโลกต้องวางแผนในการเพิ่มมูลค่าของสินค้าผ่านการสร้างแบรนด์ให้มีจุดที่แตกต่าง ทำให้ผู้คนซื้อที่ตัวคุณค่าแบรนด์ของท่านมากกว่าการเป็นแค่เพียงผู้ผลิตสินค้าแต่เพียงอย่างเดียวครับ
การขยายตลาดสู่ตลาดโลกจึงจำเป็นต้องวางแผนกลยุทธ์สู่การสร้าง Global Brand ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปครับและเริ่มต้นจากในประเทศหรือตอนที่ธุรกิจมีขนาดเล็กได้เลยครับไม่ต้องรอใหญ่แล้วค่อยทำเพราะแก้ไขยากมากเมื่อแบรนด์เข้าสู่ตลาดไปแล้วครับ

🔴 เหตุผลที่ 1 : ขนาดตลาดโลกมีขนาดที่ใหญ่กว่ามาก
ตอบได้ง่ายมากๆ คือขนาดของตลาด (Market Size) มีขนาดต่างกันอย่างมาก ครับ เรามาลองเปรียบเทียบขนาดตลาดระหว่างประเทศไทยและตลาดโลกสามารถทำได้โดยพิจารณาจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งเป็นมาตรวัดมูลค่าทางเศรษฐกิจของสินค้าและบริการที่ผลิตในประเทศดูนะครับ
เรามาลองเปรียบเทียบว่าขนาดตลาดของเรากับตลาดโลก เป็นอย่างไรบ้าง ?
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ประเทศไทย : ในปี 2024 GDP ของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 5.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั่วโลก : ในปี 2024 GDP โลกอยู่ที่ประมาณ 105 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเปรียบเทียบ : เมื่อเปรียบเทียบ GDP ของประเทศไทยกับ GDP โลก พบว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยคิดเป็นประมาณ 0.51% ของเศรษฐกิจโลก !!!
ทีนี้เรามาลองเปรียบเทียบว่าขนาดตลาดของเรากับตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) เป็นอย่างไรบ้าง ?
ประเทศไทย : ในปี 2024 GDP ของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 5.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน GDP รวมของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 3.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้น GDP ของประเทศไทยคิดเป็นประมาณ 13.8% ของ GDP รวมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ !!!
🔴 เหตุผลที่ 2 : เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจ
การขยายตลาดด้วยการส่งออกแบรนด์มากกว่าแค่ส่งออกสินค้านั้น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจ
1. ทำให้ธุรกิจมีอำนาจกำหนดราคาด้วยตนเอง (Price Power) ต่างจากการขายสินค้าแบบ OEM หรือรับจ้างผลิต ที่ราคาขายขึ้นอยู่กับต้นทุนและผู้ซื้อ แบรนด์ที่แข็งแกร่งสามารถตั้งราคาที่สูงขึ้นได้ เพราะลูกค้ายอมจ่ายเพิ่มเพื่อชื่อเสียงและคุณภาพของแบรนด์
2. สร้างความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty & Retention) ได้มากกว่า ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์และกลับมาซื้อซ้ำ เป็นการลดต้นทุนการหาลูกค้าใหม่ (Customer Acquisition Cost) และเป็นการสร้างฐานลูกค้าต่างประเทศโดยพึ่งพาคู่ค้าเพียงไม่กี่ราย
3. เพิ่มความสามารถในการควบคุมห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Control) แบรนด์ที่แข็งแกร่งสามารถกำหนดมาตรฐานและเลือกคู่ค้าของตัวเองลดการพึ่งพาคู่ค้าหรือผู้ค้าปลีกรายใหญ่ ที่อาจกดราคาหรือควบคุมตลาดทำให้อำนาจต่อรองในตลาดต่ำซึ่งอาจจะคู่ค้าในต่างประเทศลดบทบาทหรือเปลี่ยนไปอุดหนุนสินค้าที่ให้ราคาต่ำกว่า ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเรามีความเสี่ยงอย่างมาก
🔴 เหตุผลที่ 3 : เพิ่มโอกาสในการขยายตลาดและผลิตภัณฑ์ (Market Expansion & Product Diversification) เมื่อแบรนด์แข็งแรงสามารถขยายไปสินค้ากลุ่มใหม่ได้ง่ายทำให้สามารถขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะลูกค้าจดจำแบรนด์
1. เปิดประตูสู่ตลาดใหม่ได้ง่ายขึ้น (Easier Market Entry) แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักช่วยลดอุปสรรคทางการค้าลูกค้าในประเทศใหม่มีแนวโน้มที่จะเชื่อมั่นมากขึ้น หากแบรนด์มีชื่อเสียงในระดับโลกคู่ค้า (Distributors & Retailers) ยินดีร่วมงานเพราะแบรนด์มี Demand อยู่แล้ว
ตัวอย่าง:
Apple ไม่ต้องพึ่งพาโฆษณามากนักเมื่อต้องเข้าสู่ตลาดใหม่ เพราะแบรนด์แข็งแกร่ง
Uniqlo สามารถขยายจากญี่ปุ่นไปทั่วโลกเพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์
2. ลดต้นทุนการขยายตลาด (Lower Market Expansion Costs) แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักสามารถสะสมคุณค่าแบรนด์ให้แข็งแรง สามารถใช้กลยุทธ์การตลาดระดับโลกได้ โดยทำให้ใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่าแบรนด์ที่ไม่แข็งแรง อาทิ สามารถใช้ช่องทาง E-commerce ข้ามประเทศ เช่น Amazon, Shopee, Alibaba โดยไม่ต้องลงทุนสร้างหน้าร้านดึงดูดนักลงทุน หรือสามารถสร้างร้านค้าปลีกโดยให้พาร์ทเนอร์ท้องถิ่นช่วยลงทุนแทนเพื่อลดความเสี่ยง ของธุรกิจ
………………………………………………………………………….
🔴 เจ้าของแบรนด์สามารถประเมินสุขภาพแบรนด์ของท่านได้ฟรี เบื้องต้น ที่ > https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSde9f3tYr-xQIPLjOAmUvTzxUr26loA6IIchu729G2HUbxQUg/viewform?usp=sf_link
ติดตามและเรียนรู้ข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.baramizi-consultant.com/
Facebook : https://www.facebook.com/Baramizi
………………………………………………………………………….
📑สามารถดาวน์โหลดไฟล์งานวิจัยการประเมินมูลค่าแบรนด์ ประจำปี 2024 ที่แจกภายในงาน BIBF 2024 ได้ฟรี ! ได้ที่ลิงก์
📍ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : 088-2236546 (เอม) Sutthinee.b@baramizi.co.th